|
|
|
|
|
|
“เราต้องการมหาวิทยาลัยประจำลานนาไทย” |
“เพื่อศักดิ์ศรีของคนเมือง เราต้องมีมหาวิทยาลัยแห่งลานนาไทย” |
“จงสู้จนสุดใจขาดดิ้น เพื่อมหาวิทยาลัยแห่งลานนาไทย” |
|
|
ถ้อยคำเหล่านี้ล้วนบ่งบอกถึงการเรียกร้องของประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่
และจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องการให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในท้องถิ่นทั้งสิ้น
หากจะกล่าวไปแล้วความคิดในการขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาออกสู้ภูมิภาคมีมาตั้งแต่
พ.ศ. 2484 ในสมัยของพันเอก หลวงพิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี และมีนาวาเอกหลวงสินธุสงครามชัย
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้เชิญ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในขณะนั้นไปปรึกษา
เรื่องการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค แต่ในที่สุดก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา |
|
ต่อมาได้เริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อสงครามเสร็จสิ้นลง
กล่าวคือเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 นายทองดี อิสราชีวิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่
ได้ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเรื่องมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่
กระทู้ดังกล่าวเป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลพิจารณาขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาออกไปสู่ภูมิภาคตามที่เคยดำริไว้แต่เดิม
ซึ่งสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของประชาชนชาวเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคือ
“หนังสือพิมพ์คนเมือง” ซึ่งมีนายสงัด บรรจงศิลป์ เป็นบรรณาธิการ ได้เสนอข่าวการตั้งกระทู้ถามของนายทองดี
อิสราชีวิน เรื่องมหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านหนังสือพิมพ์ดังกล่าวนั้นด้วย |
|
เหตุการณ์เริ่มเข้มข้นขึ้นตามลำดับ
เมื่อหนังสือพิมพ์คนเมือง ฉบับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 ได้เริ่มต้นรณรงค์เรียกร้องให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยภาคเหนือขึ้น
และนับตั้งแต่ฉบับวันที่ 6 มิถุนายน – 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2496 รวม 8 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน
ผ่านทาง “บทนำ” และคอลัมน์ “ออกข่วง” ซึ่งตั้งหัวข้ออภิปรายเรื่อง “
ควรตั้งมหาวิทยาลัยภาคเหนือหรือไม่?” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี |
|
ข้อคิดเห็นส่วนใหญ่ต้องการให้มีมหาวิทยาลัยภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้งสิ้น
เช่น ให้เหตุผลว่า “…..เป็นการเผยแพร่ศีลธรรม วัฒนธรรม และจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่นลานนาไทย…..เชียงใหม่เป็นนครที่ใหญ่กว้างขวาง
ภูมิประเทศเหมาะแก่การจะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยมาก ทั้งอากาศก็สบาย การคมนาคม
การสาธารณูปโภคก็สะดวกสมบูรณ์….” |
|
ไม่เพียงแค่การเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องของหนังสือพิมพ์คนเมืองเท่านั้น
ประการสำคัญได้มีการพิมพ์บัตรวงกลมสีแดงเข้ม บัตรแสตมป์สีแดงเข้ม และบัตรห่วงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ซึ่งล้วนแต่พิมพ์ข้อความที่เป็นการเรียกร้องให้มีมหาวิทยาลัยในท้องถิ่น
โดยสิ่งเหล่านี้ได้แจกจ่ายเผยแพร่ให้แก่สาธารณชนทั้งในเชียงใหม่ ลำพูน
ลำปาง รวมทั้งเผยแพร่ไปทั่วประเทศ |
|
อาจกล่าวได้ว่านอกจากหนังสือพิมพ์คนเมืองจะเป็นหลักในการเรียกร้องมหาวิทยาลัยแล้ว
หนังสือพิมพ์คนเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ และหนังสือพิมพ์ไทยล้านนาของจังหวัดลำปางก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
โดยการเป็นสื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น รวมทั้งการรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของการเรียกร้อง |
|
บัตรห่วง
แสตมป์ และป้ายวงกลมการเรียกร้องมหาวิทยาลัย |
|
ประชาชนชาวเชียงใหม่ได้เรียกร้องให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จังหวัดเชียงใหม่
โดยแสดงความคิดเห็นเรียกร้องให้ตั้งมหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคผ่านคอลัมน์
“ออกข่วง” ของหนังสือพิมพ์คนเมืองซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและได้โฆษณาเผยแพร่ข้อความเรียกร้องในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ด้วย
เช่น “จงสู้จนสุดใจขาดดิ้น เพื่อมหาวิทยาลัยแห่งลานนาไทย” และ “เพื่อศักดิ์ศรีของคนเมือง
เราต้องมีมหาวิทยาลัยแห่งลานนาไทย” เป็นต้น นอกจากการรณรงค์ผ่านบทความและข้อความโฆษณาแล้วหนังสือพิมพ์คนเมืองยังได้พิมพ์บัตรต่างๆเพื่อแจกจ่าย
นักเรียนและประชาชน ดังต่อไปนี้ |
|
1. |
บัตรแสตมป์สีแดงเข้ม
มีข้อความเขียนไว้ว่า “เราต้องการมหาวิทยาลัยประจำลานนาไทย” มีวัตถุประสงค์ให้นำไปติดไปกับซองจดหมายคู่กับดวงตราไปรษณีย์หรือปิดบนเอกสารคู่ไปกับอากรแสตมป์และติดทั่วๆไปตามแต่ผู้ใช้จะเห็นสมควรเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงความต้องการของชาวเชียงใหม่
|
|
|
|
|
|
2. |
บัตรวงกลมสีแดง
มีข้อความเขียนว่า “ในภาคเหนือ เราต้องการ มหาวิทยาลัย โปรดร่วมกันต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งมหาวิทยาลัย ประจำภาคเหนือ”
|
ด้านหน้า |
ด้านหลัง |
|
|
|
|
|